1.โยคะลดความอ้วนได้จริงหรือ??
2.โยคะกับการลดความอ้วนในมุมมองของแพทย์
3. ประเภทของโยคะ
4. โยคะต่างกับการออกกำลังกายอย่างไร
5. ประโยชน์ของการฝึกโยคะ
6. 28 ท่าโยคะเพื่อการ Fit&Ferm
7. ประวัติครูสอนโยคะ

ประโยชน์ของการฝึกโยคะ

• เสริมสร้างสุขภาพและความงาม
• ลดสัดส่วน  ส่วนเกิน
• ฝึกการหายใจอย่างถูกต้อง
• ผ่อนคลายความเครียด
• บริหารศีรษะ และต่อมต่าง ๆในร่างกาย
• ช่วยการนอนหลับ
• แก้โรคเกี่ยวกับไขข้อ
• ควบคุมน้ำหนัก
• ฝึกสมาธิและการควบคุมอารมณ์

ข้อแนะนำในการฝึกโยคะ

• ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมเช่นเสื้อยืด กางเกงยืด
• ควรงดอาหารก่อนการปฏิบัติอย่างน้อย 1.30 ชั่วโมง
• ควรทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย หรือกรณีที่ปวดปัสสาวะ อุจาระในระหว่างทำควรไปถ่ายเสียก่อนไม่ควรฝืนฝึกฝนเป็นอันขาด
• ถอดเครื่องประดับเช่นแหวน สร้อยข้อมือ นาฬิกา  กรณีผมยาวควรรวบผมให้เรียบร้อย กิ้ป หรือที่รัดผมควรอยู่ในตำแห่นงที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการฝึก
• สำรวมจิตใจอยู่กับท่าทางการฝึกผสานกับการทำสมาธิ สติตั้งมั่นละทิ้งทุกเรื่องทุกสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับโยคะ

• อย่าหายใจทางปากระหว่างการปฏิบัติ ควรหายใจเข้าและออกทางรูจมูกเท่านั้น
• พยายามหายใจเข้า –ออกให้ถูกต้องและช้า ๆ เป็นจังหวะให้สอดคล้องกับท่าทาง
• หากรู้สึกเจ็บปวดร่างกายในขณะฝึกควรผ่อนคลายสัก 1-2 นาที ไม่ควรฝืนร่างกายหรือหักโหมเกินไป
• ควรฝึกปฏิบัติสม่ำเสมออย่างตั้งใจ เพื่อสุขภาพกายและจิตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
• หลังจากฝึกปฏิบัติเสร็จทุกครั้งจงพักในท่าศพอย่างน้อย 10 นาที เพื่อเป็นการเก็บ       พลังงานจิตที่ได้จากการฝึกโยคะ   ดื่มน้ำ หรือน้ำผลไม้ 1 แก้วหลังการฝึกทุกครั้ง

ความเหมาะสมในการฝึก

• เวลาที่เหมาะสมคือ ตอนบ่าย หรือเย็น เพราะเป็นช่วงที่ร่างการมีความคล่องตัวมากที่สุด
• พื้นผิวของสถานที่ฝึก  ควรมีสภาพที่เรียบ ไม่ขรุขระ และมีเนื้อที่กว้างพอสำหรับการแสดงท่วงท่ายืดแขนยืดขาได้ในทุกอิริยาบถ
• บรรยากาศในห้องควรมีความเงียบสงบ อากาศถ่ายเทได้สะดวกและไม่มีสิ่งรบกวน
• ควรหาผ้าผืนใหญ่ ๆ หรือเบาะ รองลงบนพื้นหากมีการปฏิบัติน่านั่งหรือนอน เพื่อช่วยเอื้ออำนวยให้การฝึกเป็นไปอย่างราบรื่น

รูปแบบของการฝึกเป็นไปอย่างเรียบง่าย ค่อยๆไปซึ่งจะประกอบด้วย
1.การเรียนรู้ท่าฝึกใหม่ๆ
2.การแก้ไขและพัฒนาท่าฝึกให้มีความสมบรูณ์ยิ่งขึ้น
3.การฝึกบททวนท่าให้เกิดความชำนาญ

วิธีการที่ถูกต้องการปฏิบัติโยคะ อาสนะ(yoga asanas)
ควรปฏิบัติด้วยท่วงท่าที่นุ่มนวลและเป็นไปอย่างช้าๆ  ผสมผสานกับลมหายใจที่สมดุล
โดยหายใจเข้า-ออกยาวๆลึกๆอย่างมีสติอยู่ตลอดเวลา มีการผ่อนคลายเป็นระยะ เมื่อรู้สึกเหนื่อยหากเปลี่ยนท่าอาสนะทุกครั้งให้ผ่อนคลายเสมอ หรือเมื่อรู้สึกหายใจขัด หน้ามืด ปวดกล้ามเนื้อ ต้องหยุดทำทันทีไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแข่งขันกับผู้ใด แต่ควรแข่งกับตนเอง
พร้อมทั้งควรขจัดกิเลสเรื่องเศร้าหมองหรือความรู้สึกวิตก ความเครียด ออกไปชั่วขณะ
 เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นโรคเรื้อรังทางอารมณ์ ซึ่งจะบั่นทอนให้การฝึกไม่ประสบความสำเร็จ